ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2019 กับมหกรรมดนตรสุดมันส์ 'RAMPAGE A.D.' ที่ขนไลน์อัพศิลปินมากมายมาเอาใจชาวร็อกอย่างถ้วนหน้าไม่ว่าจะเป็น SWEET MULLET, ANNALYNN, Sleeping Sheep, Lasthoper และอีกมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นมีวงร็อกดาวรุ่งกระแสแรงจากประเทศญี่ปุ่นอย่าง Survive Said The Prophet ที่ได้ร่วมตบเท้ามาสร้างความเดือดให้กับผู้ชมในงานอย่างสุดติ่ง พร้อมรับเสียงตอบรับและขยายฐานแฟนในประเทศไทยให้กว้างขึ้นไปอีกหนึ่งระดับ ซึ่ง BLAST ก็ไม่พลาดที่จะนั่งพูดคุยกันกับสมาชิกวงทั้ง 5 คนเพื่อนำบทสัมภาษณ์สุด Exclusive มาให้ทุกคนได้อ่านกัน ถ้าอยากรู้แล้วว่าพวกเขามีความรู้สึกอย่างไรกับการทัวร์ครั้งนี้ และมีความคิดเห็นอย่างไรกับดนตรีร็อกในเวลานี้ (ที่บอกเลยว่าแต่ละคำตอบนั้นมันหยดติ๋ง) มาอ่านกันได้เลย!
A: คำถามแรกน่าจะเป็นคำถามที่หลายคนอยากรู้ว่า ชื่อ Survive Said The Prophet มีที่มาจากไหน?
Q: จริงแล้วๆ ตอนแรกวงนี้มันเป็นแค่ไซด์โปรเจกต์ครับ ตอนนั้นผมมีไอเดียว่าถ้าหากสมมติว่าผมหรือใครก็ตามเป็นหมอดูซึ่งมีพลังคล้ายๆ กับพระเจ้าที่สามารถรับรู้อดีต และอนาคตได้และสามารถบอกคุณได้ ผมคิดว่าสิ่งที่คนเหล่านั้นน่าจะบอกผมว่าต้องอยู่รอดให้ได้เพราะนั่นเป็นสัญชาตญาณขั้นพื้นฐานของมนุษย์ ผมจึงคิดว่าชื่อ Survive Said The Prophet จึงเป็นชื่อที่สมเหตุสมผลสำหรับผมครับ พวกเราเคยหารือกันเรื่องเปลี่ยนชื่อเหมือนกันนะ แต่สุดท้ายแล้วชื่อนี้เรื่องราวต่างๆของพวกเราก็เหมาะกับชื่อนี้ที่สุดครับ
A: พวกคุณเพิ่งไปทัวร์ที่ประเทศอังกฤษมา เป็นอย่างไรบ้าง?
Q: มันยอดเยี่ยมมากครับ เป็นหนึ่งในประเทศที่พวกเราตื่นเต้นที่สุดเลยครับ พวกเราอยากทัวร์ที่ประเทศอังกฤษและในทวีปอเมริกาเหนือมาตลอดครับ เพราะว่าเพลงของพวกเรามันค่อนข้างมีแรงบันดาลใจมาจากที่นั่น มันเลยเป็นประเทศที่พวกเราคิดว่าที่นั่นเปิดกว้างในเรื่องวัฒนธรรมที่ต่างกันครับ ทำให้พวกเรารู้สึกเหมือนกับเป็นชาวเอเชียนที่อาศัยอยู่ที่นั่นจริงๆ เพราะที่นั่นมีความหลากหลายในเชื้อชาติสูงมาก พวกเราเลยรู้สึกประทับใจและสบายใจมากครับ เอ็นจอยอาหารที่นั่นด้วย
A: ตอนนี้พวกคุณกำลังอยู่ในระหว่างทัวร์ในประเทศเอเชีย และทุกประเทศก็ให้การต้อนรับพวกคุณอย่างดีเยี่ยม พวกคุณมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับวงการดนตรีร็อกในวินาทีนี้
Q: โอ้ คงต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงเลยครับถ้าจะให้พูดถึงเรื่องนี้ ฮ่าๆ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อนที่อินเทอร์เน็ตยังไม่เฟื่องฟูขนาดนี้ ดนตรีร็อกค่อนข้างเป็นดนตรีที่ได้รับความเคารพเป็นอย่างมาก ผมรู้สึกว่าแนวเพลงนี้เป็นกระบอกเสียงเพื่อแสดงออกทางอารมณ์ของผู้คน จริงๆมันก็ทุกแนวเพลงนะครับ แต่พลังเหล่านั้นถูกเอาออกไปจากดนตรีร็อกในช่วงระยะเวลา 10 ปีมานี้ แต่ผมยังสัมผัส และเชื่อมั่นว่าความหลงไหลและความรักต่อดนตรีร็อกยังคงมีอยู่ในทั่วทุกมุมโลกที่เคยไปมา นั่นเป็นเหตุผลที่พวกออกทัวร์และเล่นดนตรีร็อกตลอดเวลา และมันก็ไม่เกี่ยวนะครับว่าดนตรีแนวนี้มันจะเป็นที่นิยมอยู่หรือไม่ เพราะผมคิดว่าขณะนี้ความรักของผู้คนที่มีต่อดนตรีร็อก, เมทัล หรือฮาร์ดคอร์ มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับกระแสความฮิตครับ แต่มันเป็นเพราะความคิดความรู้สึกของผู้ฟังมากกว่า คนเราไม่ได้โง่ซะหน่อย เวลาพวกเขาฟังเพลง EDM หรือแนวเพลงไหนที่ซ้ำๆซากๆ ที่ปล่อยออกมาแทบจะทุกวินาทีก็ต้องมีเบื่อเป็นธรรมดา เพราะฉะนั้นถ้าจะให้บทเพลงร็อกแอนด์โรลจะกลับมายิ่งใหญ่ได้ก็ต้องเป็นวินาทีนี้นี่แหละครับ และนั่นเป็นสิ่งที่ผมรู้สึกถึงดนตรีร็อกแอนด์โรลในเวลานี้
A: แล้ววงการเพลงร็อกในประเทศญี่ปุ่นตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
Q: ผมคิดว่ามันกำลังกลับมาครับ! แต่กำลังกลับมาแบบค่อยเป็นค่อยไปนะ ฮ่าๆ พูดถึงเรื่องนี้พวกวงระดับ OG กำลังคัมแบ็กกันเพียบดูอย่าง My Chemical Romance สิครับ เหมือนว่าทุกวงกำลังกลับมา สมัยก่อนนะถ้าใครเล่นดนตรีแนวอีโมหรือสครีมโมเนี่ยโดนด่าว่าอ่อนว่าตุ๊ดกันหมด แต่พอผ่านมา 10 ปีผ่านมาที่เวลานี้ทุกคนแม่งฟังกันแต่ EDM, HipHop พวกเพลงแนว Gangster พอรู้ว่าวงหลายวงแนวอีโมหรือสครีมโมกำลังกลับมา ก็ทำมาเป็นพูดว่า โอ้คิดถึงวันเก่าๆ เนอะ คิดถึง My Chemical Romance คิดถึง The Used จริงๆ ผมแบบอย่าทำมาเป็นพูด พวกกูยังจำได้ดีว่าพวกมึงเคยด่าพวกกูว่าพวกกูมันตุ๊ดมันแต๋ว ตอนที่พวกกูเขียนขอบตาดำ ใส่ยีนส์ขาเดฟ กับเสื้อดำ พวกมึงหุบปากไปเลยนะ! ดนตรีร็อกมันไม่มีวันตายเว้ย ดนตรีร็อกเต็มไปด้วยคนดีที่มีจิตใจที่ดี เพราะฉะนั้นมันไม่มีคำว่าสายไปสำหรับดนตรีร็อกหรอก ผมต้องขอโทษสำหรับคำหยาบด้วยนะครับ ฮ่าๆ
A: มาถึงคำถามสุดท้ายแล้ว หลังจากจบทัวร์ในเอเชียแล้ว พวกเราจะเจอพวกคุณอีกไหม
Q: แน่นอนครับ อาจจะใช้เวลาสักหน่อยแต่พวกเราจะกลับมาแน่นอนนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงใช้ชื่อทัวร์ว่า 'Made in Asia' เพราะว่าทุกประเทศที่เราไปมันคือบ้านของเราแล้วครับตอนนี้ เพราะฉะนั้นพวกเราจะกลับมาแน่นอน เพราะพวกเรารักที่จะเจอผู้คนที่มีหัวใจรักดนตรีร็อกครับ
Survive Said The Prophet - Inside / Your Head
แปล: Natruetai Taungsittinun
ภาพ: Phobthum Yingpaiboonsuk