ขณะนี้เป็นที่รู้กันว่าในหลายประเทศทั่วโลกกำลังเกิดการเดินขบวนเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่พี่น้องชาวผิวดำหรือ #BlackLivesMatter สืบเนื่องจากการเสียชีวิตของ George Floyd ซึ่งก็มีศิลปินมากมายหลายคนออกมาแสดงจุดยืนแหละสนับสนุนเหตุการณ์นี้ วันนี้เราได้นำบทความของ M.Shadows ฟรอนท์แมนวง Avenged Sevenfold ที่พูดถึงเหตุการณ์นี้มาให้ทุกคนได้อ่านกัน 

     สำหรับมุนษย์ทุกชีวิตบนโลกใบนี้ ล้วนมีเส้นทางมากมายเกิดขึ้นในชีวิตอันสั้นของเรา วันนี้พวกเรากำลังแสดงให้เห็นถึงโอกาสสำหรับการเปลี่ยนแปลงของสิ่งที่เน่าเฟะมากว่า 400 ปีในประเทศนี้ นั่นคือการเหยียดสีผิวที่เกิดขึ้นต่อพี่น้องชาวแอฟริกัน-อเมริกันของพวกเรา ผมหวังว่าพวกเราจะแสดงความซื่อสัตย์ต่อตัวเอง ลองถอยออกมา เลือกสิ่งที่ถูกหรือผิด และมองข้ามเรื่องการเมืองไป ผมไม่สนใจที่จะส่งข้อความที่แสดงความเป็นการอย่าง “การก่อจราจลไม่ได้ใช้คำตอบ” หรือ “ทำร้ายผู้คนที่ไม่เกี่ยวข้องไม่ได้ช่วยเกี่ยวกับเรื่องนี้” ผมเรารู้ถึงข้อนั้นอยู่แล้ว แต่ถ้านั่นคือสิ่งที่คุณโฟกัสอยู่ในขณะนี้ผมขอร้องให้คุณขุดลงไปให้ลึกกว่านี้

     ในประเทศนี้มันมีความแตกแยกมากมายและ พี่น้องชาวผิวดำของพวกเราก็ถูกทำร้ายมาอย่างเนิ่นนาน การประท้วงอย่างสันติไม่ทำให้เกิดผล เสียงเรียกร้องเหล่านั้นไม่มีใครฟัง ตอนที่ โคลิน เคเพอร์นิก (นักอเมริกันฟุตบอล) ประท้วงโดยการคุกเข่าขณะเพลงชาติขึ้น ผู้คนครึ่งประเทศต่างวิจารณ์ว่า “นั่นคือการประท้วงแบบผิดๆ” แล้วประท้วงแบบไหนล่ะถึงจะถูก? แบบที่คุณไม่ต้องรับรู้ถึงสิ่งที่คุณไม่ชอบงั้นหรอ? ในมุมมองของผมที่หลายคนบอกว่าการกระทำของ เคเพอร์นิกนั้นไม่เคารพต่อผู้ที่รับใช้ชาติน่ะ ผมเชื่อว่าผู้ที่ตายเพื่อชาติล้วนปกป้องเพื่อนอิสระเหล่านี้นี่แหละ ผมเคารพเหล่าทหารกล้าทุกคนครับ แต่ก็ยังสนับสนุนเคเพอร์นิกและสิทธิในการแสดงออกของผู้อื่นด้วย ถ้าเราใส่ใจผู้ประท้วงอย่างเปิดใจ พวกเราอาจจะคิดแบบที่เราอยู่ในตอนนี้ก็ได้ ความจริงคือนี่ไม่ใช่เพลงปัญหาของเพียงแค่คนผิวดำ แต่มันเป็นปัญหาของคนอเมริกันต่างหาก จนกว่าพวกเราจะแสดงจุดยืนให้ชัดเจนเรื่องแบบนี้ก็คงจะไม่หายไปหรอก

     เพื่อนรักของผมที่คบกันมาหลายปีเป็นคนแอฟริกัน-อเมริกัน พี่เขยและหลานสาวของผม ทีมงานและเพื่อนร่วมงานของผมก็เช่นกันคนเหล่านี้เป็นคนที่ผมรักอย่างสุดหัวใจ แต่ผมพวกเขาต้องใช้ชีวิตที่แตกต่างออกไปเพียงเพราะแค่รูปลักษณ์ภายนอกของพวกเขา คำนินทาว่าร้ายต่อพวกเขาที่ผมได้ยินมามันต้องทำให้พวกคุณรู้สึกขยะแขยงเลยล่ะครับ ทั้งการมองแบบเหยียดหยาม, การพูดจาลับหลัง การเหน็บแนมต่างๆเหล่านั้นมันเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องเจออยู่ในทุกวัน แต่พวกเขายังคงเก็บเอาไว้และเงยหน้าใช้ชีวิตต่อไป

     ถึงเพื่อนชาวผิวขาวของผมครับ พวกเราลองจินตนาการดูสิว่าถ้าต้องใช้ชีวิตท่ามกลางสิ่งแบบนั้นมันจะทำให้คุณหวาดกลัวและรู้สึกไม่ยุติธรรมขนาดไหน ผมเคยพาพี่เขยผมไปคอนเสิร์ต Slipknot เมื่อหลายปีก่อน และการปฏิบัติต่อคนผิวดำในฝูงคนมันโจ่งแจ้งเสียจนผมต้องเก็บเอามาคิด

     ถ้าหากคุณเป็นคนผิวขาวเงียบต่อเหตุการณ์ผมขอให้ทุกคนยืนหยัดขึ้นเพื่อเพื่อนชาวอเมริกันของพวกเรา และนั่นไม่ได้หมายความว่าพวกคุณจะต้องร่วมก่อจราจลนะครับ มันหมายความว่าพวกคุณรับฟังและแสดงความต้องการที่จะช่วยเหลือพวกเขา และคุณยังเงียบในถ้าการประท้วงครั้งนี้รวมถึงยังคงเงียบต่อการตายของ Ahmaud Arbery, George Floyd, Breonna Taylor และคนอื่นๆ ผมว่ามันถึงเวลาที่คุณต้องพิจารณาตัวเองได้แล้ว ตอนนี้มันถึงเวลาที่จะแสดงให้พวกเขาเห็นแล้วว่าพวกเรารับฟัง และรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดของพวกเขา นี่เป็นการต่อสู้ที่พี่น้องของเราไม่จำเป็นต้องสู้อย่างโดดเดี่ยว ถ้าหากใครสักคนพูดว่า “Black Lives Matter” แต่คุณตอบกลับไปว่า “All Lives Matter” นั่นคุณควรมองให้ลึกลงไปถึงการกระทำแบบนั้น ใช่ครับทุกชีวิตมีค่า แต่ ณ เวลานี้ ชีวิตที่ถูกกดขี่ต้องการการแบ่งแยกของพวกเรา

     ผมรู้ดีว่าฐานแฟนของ Avenged Sevenfold อาจจะถูกสร้างขึ้นจากคนอเมริกันผิวดำเพียงแค่ไม่กี่คน แต่นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมต้องเขียนเรื่องนี้ถึงพวกคุณ เราทุกคนสามารถรวมกันเป็นหนึ่งเดียวได้

     ผมเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบในวัฒนธรรมของชาวอเมริกันผิวดำ ทั้งดนตรี, ศิลปิน, ภาพยนตร์, เสื้อผ้า, กีฬา, อาหาร ทุกอย่างทำให้ผมมีชีวิตที่ดีขึ้น ประเทศนี้ดีขึ้นเพราะคนเหล่านี้ได้อย่างไม่สงสัยเลยครับ ทุกคนรู้ใช่ไหมว่า Chuck Berry เป็นพ่อของวงการร็อกแอนด์โรลเลยนะ เพราะฉะนั้นการต่อสู้กับความไม่เท่าเทียมกัน แหละการเหยียดผิวสีเป็นสิ่งที่เราพอจะทำได้

      ผมรู้ดีว่าเนื้อเพลงของพวกเราเคยสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีนักมากเท่าไหร่ในอดีต แถมยังเคยใช้ธงของสมาพันธรัฐอเมริกาในอาร์ตเวิร์กของพวกเราอีกด้วย ผมรู้ว่ามันต้องเกิดความย้อนแย้งแน่นอน และต้องโดนต่อว่าอย่างชัวร์ๆ แต่ถ้าหากพวกคุณกำลังอ่านบทความนี้อยู่ ผมจะไม่ปฏิเสธใดๆเลย ขอยอมรับทุกอย่าง แต่พวกเราก็ต้องเติบโตขึ้นใช่ไหมล่ะครับ ผมหวังว่าวงการร็อกและเมทัล เหล่าคนผิวขาว จะสามารถก้าวผ่านการเหยียดเหล่านี้ด้วยความคิดที่เปิดกว้างและช่วยพี่น้องของพวกเราในยามที่พวกเขาต้องการมากที่สุด

- M 

Photo: Travis Shinn

Source: Revolver Magazine