+66 81 692 3961
leesic@gmail.com
  


รีวิวคอนเสิร์ต Nothing But Thieves Live from The Warehouse (โชว์ 1) รีวิวคอนเสิร์ต Nothing But Thieves Live from The Warehouse (โชว์ 1) รีวิวคอนเสิร์ต Nothing But Thieves Live from The Warehouse (โชว์ 1)


 2020-10-29 07:51:44

    

[รีวิว] Nothing But Thieves Live from The Warehouse (Show 1)

     หลังจากที่หัวหอกแห่งวงการอัลเทอร์เนทีฟ-ร็อกยุคปัจจุบันชื่อดังจากเกาะอังกฤษ ‘Nothing But Thieves’ ได้คัมแบ็กด้วยการส่ง ‘Moral Panic’ อัลบั้มเต็มชุดที่ 3 ของพวกเขาออกมาในวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งก็มีกระแสตอบรับอย่างดีจากแฟนเพลงทั่วโลก และเพื่อเป็นการฉลองการปล่อยอัลบั้มนี้บวกกับการห่างหายจากเวทีอย่างยาวนานเนื่องจากการระบาดของ Covid-19 สมาชิกวงทั้ง 5 จึงได้วางแผนจัดคอนเสิร์ตออนไลน์ขึ้นมาเพื่อให้แฟนๆได้หายคิดถึงกันในชื่อคอนเสิร์ตว่า “NOTHING  BUT THIEVES LIVE FROM THE WAREHOUSE” ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 28 และ 29 ตุลาคม 2563

     คอนเสิร์ตนี้จะแบ่งเป็นทั้งหมด 3 เซต ที่มีความยูนีคด้วยลิสต์เพลง และการจัดโชว์ที่แตกต่างกันออกไป โดยที่แฟนเพลงสามารถเลือกซื้อบัตรเข้าชมตามใจชอบ อิงจากโปสเตอร์ Setlist ที่วงเผยออกมาสปอยล์ให้เห็นชื่อเพลงเป็นบางเพลง หรือสามารถเหมาซื้อแพคเกจทั้ง 3 เซตก็ได้เช่นกัน

     ส่วนวันนี้ BLAST Magazine ขอมารีวิวโชว์ในเซ็ทที่ 1 ให้ทุกท่านได้อ่านกันก่อน ส่วนตัวที่เลือกดูโชว์นี้เพราะเห็นว่ามีเพลง 'Painkiller' ที่ช่วงหลังจากอัลบั้ม ‘Broken Machine’ ปล่อยออกมา เพลงนี้จะถูกตัดออกจากโชว์ไปบวกกับเห็นชื่อเพลง ‘What Can I Do If The Fire Goes Out?’ ที่ทางวงเคยได้ cover เอาไว้ก่อนหน้านี้จึงทำให้รู้สึกว่าอยากฟัง NBT เล่นเพลงนี้อีกสักครั้ง เอาล่ะ ถึงเวลาที่จะมีพูดถึงคอนเสิร์ตออนไลน์ครั้งแรกของ Nothing But Thieves ให้ทุกคนได้อ่านแล้ว

 

 

     เริ่มต้นโชว์มาด้วยการที่สมาชิกทั้ง 5 ได้แก่ Conor Mason (ฟรอนต์แมน), Dom Craik (กีตาร์), Joe Langridge-Brown (กีตาร์), Phil Blake (เบส) และ James Price (กลอง) เดินออกมาประจำตำแหน่งของตัวเอง เปิดตัวอย่างไม่รอช้าด้วยเพลงฮิตสุดเดือดจากอัลบั้มก่อนอย่าง ‘Amsterdam’ ที่พาให้ใจขึ้นแทบลุกขึ้นมากระโดดอยู่กลางบ้านกันเลยทีเดียว ต่อกันแบบไม่หยุดกับเพลง ‘I Was Just A Kid’ ที่เชื่อมเพลงกันมาอย่างเนียบกริ้บไม่ให้ได้ทันตั้งตัวกันเลย จบเพลงที่สองก็ส่งเข้าเพลงที่สามแบบไม่รีรอกับเพลงจากอัลบั้มแรกที่ทำให้หลายๆคนรู้จักพวกเขาอย่างเพลง ‘Wake Up Call’ ที่ฟังยังไงก็ไม่เคยเบื่อเลย (จบไลฟ์ด้วยก็ยังต้องไปเปิด Spotify ฟังต่อ เพราะมันดีจริงค่ะคุณขา)

 

 

     สามเพลงแรกผ่านไปวงก็ขอพักทักทายแฟนเพลงทางบ้านนิดนึง ก่อนที่จะเล่นเพลง ‘Free If You Want To’ หนึ่งใน 11 แทร็กจากอัลบั้มใหม่ล่าสุดของพวกเขา ซึ่งส่วนตัวเราชอบเพลงนี้มากอยู่แล้ว พอได้ฟังเวอร์ชั่นเล่นสดแล้วก็ยิ่ง ชอบขึ้นไปอีก เช่นเดียวกันกับเพลงต่อมาซึ่งเป็นหนึ่งในซิงเกิลจากอัลบั้มเดียวกันอย่างเพลง ‘Impossible’ บทเพลงที่เต็มไปด้วยอารมณ์ที่ถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่าทึ่ง พอได้ดูเวอร์ชั่นไลฟ์ก็ทำเอาเราแทบร้องไห้ออกมาเลย

 

Nothing But Thieves - Impossible

 

     หลังจากจบเพลง ‘Impossible’ ทางวงก็ได้สลับนำ ‘Graveyard Whistling’ ผลงานในช่วงยุคแรกๆออกมาให้หวนย้อนเวลากัน ซึ่งเพลงนี้เป็นอีกหนึ่งเพลงดึงอารมณ์ที่ทำให้ทุกอย่างหยุดนิ่งได้ไม่แพ้กัน แต่ถ้าพูดถึงเพลงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์โศกที่สุดนั้นก็คือเพลงถัดไปอย่าง ‘Particles’ ที่เราเสียน้ำตาแทบจะทุกครั้งที่ได้ยิน 

     แต่เอ๊ะ พูดถึงเรื่องคุณภาพการโชว์ และการเลือกเพลย์ลิสต์ต่างๆมาก็เยอะแล้วขอพูดถึงวิชวลต่างๆกันบ้าง ก็ขอพูดตรงๆว่ามันดูไม่ว้าวเอาซะเลย มีว้าวแค่ตอนอีก 2 ซิงเกิลจากอัลบั้ม ‘Moral Panic’ อย่างเพลง ‘Unperson’ กับ ‘Phobia’ ที่ดูมีอะไร โดยเฉพาะเพลง ‘Unperson’ นั้นออกมาสุดปังปุริเย่เลยค่ะแม่! ดีมาก! แต่นอกนั้นก็ยังเฉยๆ ถ้ามองโดยรวมก็ต้องบอกว่ามันก็ออกมาไม่แย่ๆอยู่แล้ว

 

 

ไม่ทันไรก็เดินมาถึง 3 เพลงสุดท้าย ที่เราขอยกว่าเป็นการเรียงเซ็ตลิสต์ออกมาได้อย่างดีมากๆสำหรับแฟนคลับวงอย่างเรา เริ่มจากเพลงคลาสสิคฮิต ‘If I Get High’ ที่ทำให้เราต้องร้องตามออกมาอย่างสุดเสียงด้วยความอิน (ประหนึ่งว่าอยู่ในคอนเสิร์ต) และต่อด้วยการนำเพลง ‘What Can I Do If The Fire Goes Out?’ เพลงออริจินัลจากวง Gang of Youths มา Cover กันให้ได้ฟังอีกรอบหลังจากที่พวกเขาเคย Cover เพลงนี้ตอนไปออกรายการ Triple J: Like a Version มาก่อนหน้านี้ รวมถึงเพลง 'Painkiller' หนึ่งในเพลงที่เราชอบที่สุดจากอัลบั้มชุดแรก และการปิดท้ายโชว์ด้วยเพลงสุดมันส์อย่าง ‘Is Everybody Going Crazy?’ เพื่อส่งมอบความสะใจให้กับแฟนเพลง หลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานมาทั้งวันได้

 

Nothing But Thieves - Is Everybody Going Crazy?

 

     สรุปง่ายๆว่า Nothing But Thieves ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยสักครั้งกับการได้ดูคอนเสิร์ตของพวกเขา ถึงแม้ว่าครั้งนี้จะเป็นแบบออนไลน์ที่ต้องดูเหงาๆอยู่ที่บ้านคนเดียว แต่อย่างที่รู้กันว่า Nothing But Thieves เป็นวงที่ฃื่อในด้านการแสดงสดด้วยพลังอันมากล้นของพวกเขา จึงทำให้รู้สึกเอ็นจอยได้ให้พอคลายเหงา และรีแล็กซ์จากความเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน การเลือก Setlist ที่ประกอบไปด้วยทั้งเพลงเก่า เพลงใหม่ และเพลง Cover ที่ทำออกมาได้ดีและลื่นไหล ทำให้โชว์นี้ดูไม่น่าเบื่อเลย

     ก่อนจากกันขอเล่าความประทับใจในการเอ็นเตอร์เทนแบบมึนๆตามสไตล์คอเนอร์นิดหน่อย นั่นคือช่วงพักระหว่างเพลง เขาได้พูดขึ้นมาว่า ดีใจที่พวกเราได้กลับมาในบรรยากาศแบบนี้อีกครั้งนะครับ แต่ก็เป็นบรรยากาศแบบใหม่ ที่ก็แอบเศร้าที่พวกเราไม่ได้ยินฟีดแบ็คจากพวกคุณ ดอม (มือกีตาร์) จึงได้เอาเอฟเฟคเสียงคนปรบมือมาใส่ไว้ในคีย์บอร์ดเอาไว้ให้ผมด้วยครับ” และแน่นอนว่าระดับดอม แล้วไม่มีแค่เอฟเฟคเดียวหรอก เพราะพอคอเนอร์กดไปก็เจอแต่เอฟเฟคฮาๆให้คนดูได้หัวเราะตามกัน โดยเฉพาะเอฟเฟค John Cena (อันนี้เราถึงกับขำก๊าก) ก็เรียกได้ว่าโมเมนต์มึนๆฮาๆที่ทำให้เราหัวเราะได้จนลืมเรื่องเหนื่อยไปได้ชั่วคราวเลย

     สุดท้ายและท้ายสุดอยากฝากอัลบั้ม ‘Moral Panic’ ของพวกเขาทั้ง 5 คนเอาไว้ด้วย เพราะส่วนตัวเรามองว่าอัลบั้มนี้มันเข้าถึงสถานการณ์โลกได้อย่างดี ทั้งภาวะสังคม และภาวะจิตใจของคน ซึ่งหลายเพลงนั้นมัน Poetic และสะท้อนความรู้สึกออกมาได้อย่างดีเยี่ยม 

 

Nothing But Thieves - Moral Panic

ฟังและดาวน์โหลด: https://nbthiev.es/moralpanic 

 

Writer: Baitong

Special Thanks to BEC-Tero Music/Sony Music Thailand

 
 
 Blastmag 2016. All right