BLAST ก็มีโอกาสสุดพิเศษ ได้สัมภาษณ์และพูดคุยกับหนุ่ม Jeff Stinco มีกีตาร์สุดคูล เป็นการเรียกน้ำย่อยให้แฟนๆ ก่อนที่จะได้เจอพวกเขากันมาฝากกัน!

BLAST: เสียงตอบรับจากแฟนๆ เป็นยังไงบ้างหลังจากที่ได้ปล่อยอัลบั้มที่หก “Harder than it looks” ช่วยเล่าความหมาย และ ที่มาที่ไปของอัลบั้มนี้ให้เราฟังหน่อยได้ไหม?
Jeff: เท่าที่ทำอัลบั้มกันมา ถ้าลองสังเกตุชื่ออัลบั้มจะเห็นว่าพวกเราชอบเล่นคำในประโยค และ ความหมายของแต่ละประโยคก็ตรงไปตรงมา แต่ความหมายของอัลบั้มนี้มันก็แอบแปลได้หลายแบบ ตลอดเส้นทางของการเป็นวงดนตรี พวกเรารู้สึกว่า เรารู้ว่าเราเป็นใคร ชอบอะไร และแฟนๆคาดหวังอะไรจากพวกเรา แต่ก็แปลกมากๆ เหมือนกัน เพราะว่าทุกครั้งที่พวกเราอยู่ในสตู มันเป็นสถานการณ์ที่ยากมากๆ ในหลายๆ มิติเลย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเพลง การจะสื่อถึงเนื้อหาของเพลงยังไง ซึ่งมันยากกว่าที่คิดไว้จริงๆ เป็นอะไรที่ท้าทายเรามาก

BLAST: ขั้นตอนการเริ่มทำเพลงแต่ละเพลงมันเป็นยังไง แยกกันทำไหม หรือว่าต้องนัดมารวมตัวกันถึงจะเขียนเพลงๆหนึ่งได้ แล้วความอยากของการทำเพลงคืออะไร?
Jeff: พวกเราชอบทำเพลงแบบโอลสคูล มันก็จะมีแค่ส่วนเล็กๆ ที่อาจจะทำคนเดียวได้ แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องหาเวลามารวมตัวกันพร้อมหน้าพร้อมตากันอยู่ดี แบ่งปันไอเดียกันนั่นนี้ เคยมีอยู่ครั้งที่พวกเรานั่งชิลอยู่ด้วยกันที่ LA ผมก็เล่นกีตาร์ของผมไป พอคนในวงได้ยินก็ทักว่า เอ้ย เมื่อกี้ที่เล่นซาวน์ดน่าสนใจนะ ผมก็สวนไปว่านี่มันคือ ไอเดียที่เจ๋งที่สุดแล้ว แต่ก็อย่างว่าแหละฮะ พอได้เริ่มทำเพลงร่วมกัน ต่างคนก็ต่างยึดติดไปกับไอเดียของตัวเอง อย่างตอน Pierre ร้องผมก็ทักไปว่า เอ้ยนายต้องทำได้ดีกว่านี้นะ นางก็สวนกลับมา แล้วนายรู้อะไรเกี่ยวกับการร้องบ้างล่ะ ฮ่าๆ ความท้าทายอีกอย่างในการทำเพลงก็คือ จะทำยังไงที่จะสร้างดนตรีและทำนองใหม่ๆ ที่ไม่ได้ฉีกไปจากความเป็น Simple Plan ซะมากกว่า พวกเราคิดว่าแฟนๆ ก็คงคาดหวังว่าไม่อยากให้แนวดนตรีเราต้องเปลี่ยนไปขนาดนั้น อย่างผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ฟังเพลงทุกแนวเลย แล้วก็จะชอบมีความคิด หรือไอเดียใหม่ๆ ที่อยากจะเอามาปรับใช้ในแนวดนตรีของพวกเราให้มีความน่าสนใจมากขึ้นเท่านั้นเอง

BLAST: คิดว่าความเป็นป๊อปพังก์ในสมัยนี้กับสมัยก่อนมันเปลี่ยนแปลงไปเยอะไหม?
Jeff: มันก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยแหละครับ แต่สมัยก่อนหน้านี้วงแนวป๊อปพังก์จะมีเยอะมากๆ พอเราเริ่มเข้ามาสู่ยุคที่มันมีความเป็นป๊อปมากขึ้น ความเป็นป๊อปพังก์ หรือแนวร็อคก็เหมือนจะถูกลืมไป แต่ก็ไม่รู้ทำไมที่ช่วงโควิด คนเริ่มหันกลับมาฟังป๊อปพังก์กันมากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แล้วมันดันเป็นกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่เริ่มฟัง แล้วก็แชร์เพลงแนวนี้กัน วงเด็กๆ ก็มีการเอาเพลงมาคัฟเว่อร์กันบ้าง ผมถือว่ามันเป็นช่วงเวลาที่เราได้กลับมาชื่นชมและรู้สึกยินดีไปกับมัน ไม่ว่าจะเป็นในกลุ่มคนที่เล่นสเก็ต กีฬาเอ็กซ์ตรีมต่างๆ หรือแม้กระทั่งไปยิม ผมว่าดนตรีแนวนี้มันให้พลังบวกกับคนฟังมากๆ ตอนนี้เลยกลายเป็นว่ามันกลับมามีชีวิตอีกครั้งในทุกๆเพศและทุกวัย
ผมมีเรื่องเราฮาๆหนึ่งเรื่อง ตอนที่เพื่อนๆที่โรงเรียนของลูกผมของเขารู้ว่า “I’m Just a Kid” เป็นเพลงของพวกผมนะ ทุกคนรีแอคแบบเดียวกันเลยว่า ว้าว นั่นคือเพลงของวงพ่อเธอหรอ ฮ่าๆ ผมว่ามันเป็นโมเม้นท์ที่ตลกดี ผมเลยคุยกับคนในวงว่า ถ้าครั้งหน้าเราทำโปสเตอร์นะ ให้เขียนว่า “Simple Plan” แล้วก็ต่ออีกบรรทัดว่า “The I’m Just a Kid Band”

BLAST: มีความพร้อมกันมากน้อยแค่ไหนสำหรับ SEA Tour ในครั้งนี้?
Jeff: พร้อมมากถึงมากที่สุด คิดถึงอาหาร บรรยากาศ ผู้คน และ อากาศที่ไทยมากครับ ตอนนี้ต้องรีบใช้เวลากับครอบครัวตุนเอาไว้ก่อนที่จะไปทัวร์ ปีที่แล้วพวกเราทัวร์กันเยอะมากๆ เล่นมาเป็นร้อยๆโชว์ ฮ่าๆ ผมพูดให้เยอะเอาไว้ก่อน แต่รู้สึกว่าเราเล่นกันมาเยอะครับ เพราะงั้นพวกเราพร้อมมากๆสำหรับ The Harder Than It Looks SEA Tour ในครั้งนี้

และแน่นอนว่า BLAST ไม่พลาดที่จะฝากวีดีโอทักทายจากหนุ่ม Jeff มาให้แฟนๆได้ชมกันด้วย
สำหรับใครที่ยังไม่ได้หาซื้อบัตร อาจจะต้องรีบไปกดกันก่อนที่บัตรจะ sold out นะ จิ้มลิงค์โลด
https://www.ticketmelon.com/defianceentertainment/simpleplan